จากการเข้าสู่ยุคที่ธุรกิจต่างใช้ข้อมูลในการขับเคลื่อน ทำให้การบริหารจัดการความรู้ (Knowledge Management: KM) เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้องค์กรสามารถ รวบรวม จัดเก็บ และแบ่งปันองค์ความรู้ ได้อย่างเป็นระบบ ซึ่งช่วยให้พนักงานสามารถเข้าถึงข้อมูลที่จำเป็นได้ง่าย ลดการทำงานที่ซ้ำซ้อน และเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่การจัดการความรู้ให้มีประสิทธิภาพ ต้องอาศัยเครื่องมือที่เหมาะสม เพื่อช่วยให้การบริหารข้อมูลเป็นไปอย่างเป็นระบบและสะดวกยิ่งขึ้น
ในบทความนี้ เราจึงรวบรวม 9 เครื่องมือ Knowledge Management ที่ได้รับความนิยม และช่วยให้องค์กรบริหารจัดการความรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาแชร์ให้กับทุกคน
การจัดการความรู้ หรือ Knowledge Management หมายถึง กระบวนการบริหารจัดการองค์ความรู้ภายในองค์กร ทั้งในรูปแบบของข้อมูล ทักษะ และประสบการณ์ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการดำเนินงาน ด้วยระบบ KM ในองค์กรที่ดี พนักงานจะสามารถค้นหาและเข้าถึงข้อมูลสำคัญที่จำเป็นต่อการทำงานได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้และพัฒนาทักษะได้อย่างก้าวกระโดด ยกระดับการตัดสินใจทางธุรกิจ เมื่อผู้บริหารสามารถเข้าถึงข้อมูลและองค์ความรู้ที่สำคัญได้อย่างครบถ้วน จะช่วยให้การตัดสินใจทางธุรกิจมีความแม่นยำและนำพาองค์กรไปสู่ความสำเร็จ
Tacit Knowledge หรือ ความรู้ที่ฝังอยู่ในตัวบุคคล คือ ความรู้ที่ได้รับจากประสบการณ์และความชำนาญของแต่ละบุคคล ซึ่งไม่สามารถถ่ายทอดผ่านลายลักษณ์อักษรได้ง่าย ต้องอาศัยการสอนแบบตัวต่อตัว (Mentorship, On-the-job training) โดยมักอยู่ในรูปแบบของทักษะการคิดวิเคราะห์ สัญชาตญาณในการตัดสินใจ และประสบการณ์จากการทำงานจริง
ตัวอย่างของ Tacit Knowledge :
Explicit Knowledge หรือ ความรู้ที่ชัดแจ้ง คือ ความรู้ที่สามารถบันทึกและเข้าถึงได้ง่ายในรูปแบบเอกสาร วิดีโอ หรือสื่อดิจิทัลต่าง ๆ โดยมักอยู่ในรูปแบบของ หนังสือ คู่มือ วิดีโอ หรือฐานข้อมูล ที่สามารถเข้าถึงได้จากบุคคลทั่วไปในองค์กร
ตัวอย่างของ Explicit Knowledge :
Implicit Knowledge หรือ ความรู้โดยนัย คือ ความรู้ที่สามารถถ่ายทอดออกมาได้ แต่ยังไม่ได้ถูกจัดระเบียบให้เป็นเอกสารอย่างเป็นทางการ โดยความรู้นี้สามารถพัฒนาเป็น Explicit Knowledge ได้ ส่วนใหญ่มาจาก Tacit Knowledge ที่สามารถถ่ายทอดได้ผ่านการสังเกตหรือฝึกฝน
ตัวอย่างของ Implicit Knowledge:
ในการเลือกเครื่องมือ Knowledge Management มาใช้ในองค์กร มีฟีเจอร์หลัก ๆ ที่ควรพิจารณา ได้แก่
การเลือกเครื่องมือ Knowledge Management หรือ KM Tools ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในการช่วยจัดระเบียบและแบ่งปันความรู้ในองค์กร โดยเราได้รวบรวม 9 เครื่องมือยอดนิยม ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการความรู้มาไว้ให้แล้ว มาดูไปพร้อม ๆ กันเลยว่ามีอะไรบ้าง
SharePoint (Microsoft) คือ เครื่องมือ Knowledge Management ที่ใช้ในการจัดการเอกสารและข้อมูลที่ได้รับความนิยมสูงจาก Microsoft องค์กรสามารถใช้ SharePoint เพื่อสร้างฐานความรู้ แบ่งปันไฟล์ และทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น มีฟีเจอร์การควบคุมสิทธิ์การเข้าถึง (Access Control) รองรับการจัดเก็บเอกสารเวอร์ชัน (Version Control) ลดความผิดพลาดในการทำงาน และทำงานร่วมกับเครื่องมือ Microsoft อื่น ๆ ได้อย่างสะดวกสบาย
Document 360 เป็นเครื่องมือ Knowledge Management ที่ช่วยสร้างฐานความรู้แบบ Self-Service ที่พนักงานและลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่าย รองรับ การสร้างบทความ คู่มือ และ FAQ มีระบบการจัดการเวอร์ชันเอกสารที่แม่นยำ ป้องกันความซ้ำซ้อนของข้อมูล ระบบค้นหาขั้นสูงช่วยให้เข้าถึงข้อมูลที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังรองรับการทำงานแบบ Collaborative Editing ที่ผู้ใช้สามารถแก้ไขงานได้พร้อมกันในเวลาเดียวกัน
WordPress เป็นแพลตฟอร์มสำหรับสร้างเว็บไซต์ที่สามารถนำมาปรับใช้เป็น Knowledge Base หรือ Intranet ได้ เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการสร้างศูนย์กลางข้อมูล ให้พนักงานเข้าถึงเอกสารและทรัพยากรต่าง ๆ ได้ง่าย สามารถปรับแต่งได้อย่างอิสระ มีปลั๊กอินช่วยเพิ่มความสามารถ เช่น ระบบจัดการเอกสาร รองรับ SEO ช่วยให้ค้นหาข้อมูลภายในองค์กรได้ง่ายขึ้น และใช้งานได้ง่ายแม้ไม่มีความรู้ด้านการเขียนโค้ด
Google Workspace เครื่องมือ Knowledge Management จาก Google ที่ช่วยให้ทีมสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างคล่องตัว ประกอบไปด้วย Google Drive, Google Docs, Google Sites และ Google Sheets ซึ่งรองรับการทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์ มีระบบคลาวด์ช่วยให้เข้าถึงข้อมูลได้จากทุกที่ และมีการเข้ารหัสข้อมูลเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในองค์กร
Asana คือ แพลตฟอร์มบริหารโครงการที่สามารถใช้เป็นเครื่องมือ Knowledge Management ได้ โดยสามารถสร้าง Task และ Workflow เพื่อช่วยจัดระเบียบข้อมูล มีฟีเจอร์การติดตามงานและแบ่งปันแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด อีกทั้งยังใช้งานง่ายและรองรับการผสานรวมกับเครื่องมืออื่น ๆ เช่น Google Drive และ Slack เป็นต้น
Bloomfire เป็นเครื่องมือ Knowledge Management ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้พนักงานสามารถค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการทำงานได้ง่ายขึ้น มีระบบ AI ที่ วิเคราะห์และแนะนำเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง ลดเวลาในการค้นหาข้อมูล มีฟีเจอร์การแชร์ข้อมูลและถาม-ตอบที่ช่วยให้พนักงานเข้าถึงความรู้ได้ง่าย และรองรับการทำงานร่วมกันในทีมขนาดใหญ่
Notion เป็นแพลตฟอร์มที่ให้ความยืดหยุ่นสูงในการจัดการความรู้ สามารถใช้สร้างฐานข้อมูล Wiki, Note, Task Management และแชร์ข้อมูลภายในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ รองรับการทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์ และสามารถใช้งานได้ทั้งบนเว็บและมือถือ
แม้จะเป็นเครื่องมือสื่อสาร แต่ Slack สามารถใช้จัดเก็บและแชร์องค์ความรู้ได้อย่างดีผ่าน Channel และ Integration กับเครื่องมืออื่น ๆ เช่น Google Drive, Notion หรือ SharePoint ได้อีกด้วย และยังมี AI ที่ช่วยวิเคราะห์และแนะนำข้อมูลที่เกี่ยวข้องในการสนทนาอีกด้วย
Tableau คือ แพลตฟอร์ม Knowledge Management ที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ช่วยให้สามารถสร้าง Dashboard และ Data Visualization เพื่อแสดงข้อมูลเชิงลึก รองรับการผสานรวมกับฐานข้อมูลขนาดใหญ่ เช่น SQL, Google BigQuery และ Excel ทำให้ทีมสามารถเข้าถึงและวิเคราะห์ข้อมูลได้ง่ายขึ้น สามารถจัดการความรู้ได้อย่างเป็นระบบ ลดความซ้ำซ้อนของข้อมูล และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกัน
ช่วยจัดระเบียบข้อมูล: Knowledge Management Tools ช่วยให้การจัดระบบข้อมูลเป็นไปอย่างเป็นระเบียบและมีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายและรวดเร็ว อีกทั้งยังช่วยกำจัดความซ้ำซ้อนของข้อมูลอีกด้วย
เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน: ด้วยการใช้ Knowledge Management Tools พนักงานสามารถค้นหาข้อมูลที่จำเป็นต่อการทำงานได้อย่างฉับไว ส่งผลให้การปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพสูงขึ้น
ปรับปรุงการทำงานร่วมกัน: Knowledge Management Tools เอื้อให้เกิดการ Knowledge Sharing ในองค์กร ทำให้เกิดความร่วมมือและการประสานงานที่ดีขึ้น
ป้องกันการสูญเสียความรู้: การนำ Knowledge Management Tools มาใช้ ช่วยป้องกันการสูญหายขององค์ความรู้อันเนื่องมาจากการลาออกของพนักงาน ทำให้ความรู้ยังคงอยู่กับองค์กรแม้จะมีการเปลี่ยนแปลงบุคลากร
ช่วยให้ตัดสินใจได้เร็วขึ้น: ด้วยการมีข้อมูลที่ถูกต้องและทันสมัยตลอดเวลา ผู้บริหารสามารถตัดสินใจได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ช่วยให้องค์กรคล่องตัวและปรับตัวได้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง
ปรับปรุงการเรียนรู้และพัฒนาองค์กร: Knowledge Management Tools ช่วยกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้และพัฒนาทักษะของบุคลากรภายในองค์กรอย่างต่อเนื่อง นำไปสู่การเติบโตและพัฒนาองค์กรในระยะยาว
Knowledge Management คือ เครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้องค์กรสามารถจัดเก็บและแบ่งปันองค์ความรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเลือกเครื่องมือที่เหมาะสม เช่น SharePoint, Google Workspace, Notion หรือ Tableau จะช่วยให้การบริหารจัดการความรู้เป็นไปอย่างราบรื่น และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานขององค์กรได้อย่างก้าวกระโดด ปรึกษา Data Wow ได้วันนี้ที่ sales@datawow.io หรือโทร 02-024-5560