รู้จักกับ Cloud Server แนะนำบริการ Cloud Server ที่น่าสนใจ 2024

เคยสงสัยกันไหมว่าองค์กรที่มีข้อมูลขนาดใหญ่จัดเก็บข้อมูลเหล่านั้นไว้ที่ไหน? จัดการดูแลข้อมูลเหล่านั้นได้อย่างไร? บทความนี้เรามีคำตอบ

คำว่า “Server” เป็นคำที่หลายคนคุ้นเคยเป็นอย่างมากในการทำงานด้านระบบไอที ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้องค์สามารถบริหาร ควบคุม หรือดูแลข้อมูลได้อย่างเป็นระบบ ด้วยนวัตกรรมสมัยใหม่ทำให้เซิร์ฟเวอร์ได้รับการพัฒนามากขึ้นและเกิดเป็น “Cloud Server” ที่ตอบโจทย์การทำงานในยุค Digital Transformation ได้เต็มประสิทธิภาพ แต่ก่อนที่เราจะไปทำความรู้จักกันว่า Cloud Server คืออะไร? Cloud Server เจ้าไหนดี? เรามาทำความเข้าใจความหมายของ Server กันก่อน

ทำความรู้จัก Server คืออะไร

Server หรือ เซิร์ฟเวอร์ คือ คอมพิวเตอร์หรือระบบที่จัดหาทรัพยากร ข้อมูล บริการ หรือโปรแกรมให้กับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นหรือลูกค้าผ่านเครือข่าย

ฟังก์ชันหลักของเซิร์ฟเวอร์

• การแบ่งปันทรัพยากร : เซิร์ฟเวอร์ช่วยให้ลูกค้าหลายรายสามารถแบ่งปันทรัพยากร เช่น ไฟล์ (Files) เครื่องพิมพ์ (Printers) และพื้นที่เก็บข้อมูล (Storage Space) ซึ่งเป็นการจัดการทรัพยากรแบบรวมศูนย์ที่ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบและลดต้นทุนให้กับองค์กร

• การจัดเก็บและการจัดการข้อมูล : เซิร์ฟเวอร์สามารถจัดเก็บข้อมูลจำนวนมากที่ลูกค้าสามารถเข้าถึงและจัดการได้ ข้อมูลนี้อาจรวมถึง ไฟล์, ฐานข้อมูล (Databases), เว็บไซต์ (Websites) และอื่น ๆ

• การประมวลผลคำสั่ง : เซิร์ฟเวอร์สามารถประมวลผลคำสั่งจากลูกค้า เช่น การดึงข้อมูลเว็บเพจ, การสืบค้นฐานข้อมูล หรือการประมวลผลไฟล์ ผ่านการคำนวณและตอบกลับลูกค้าได้อย่างเหมาะสม

• การรักษาความปลอดภัยและการควบคุมการเข้าถึง : เซิร์ฟเวอร์บังคับใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยและการควบคุมการเข้าถึง เพื่อให้แน่ใจว่ามีเพียงผู้ใช้ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นที่สามารถเข้าถึงทรัพยากรเฉพาะได้ ซึ่งรวมถึงการรับรองความถูกต้องของผู้ใช้, การเข้ารหัสข้อมูล และการป้องกันไฟร์วอลล์ (Firewall)

Cloud Server คืออะไร

Cloud Server คือ ระบบการทำงานที่เกิดจากการนำอุปกรณ์คอมพิวเตอร์เครื่องหลักหลาย ๆ เครื่องมาทำงานร่วมกัน เพื่อดึงศักยภาพทั้งหมดให้กลายมาเป็นพื้นที่จัดเก็บข้อมูลแบบไร้จำกัด และสามารถให้บริการด้านไอทีได้แม้อยู่ละคนพื้นที่กับผู้ใช้งาน ทำให้ Cloud Server มีคุณภาพสูงกว่าเซิร์ฟเวอร์ประเภทอื่น และกลายเป็นเซิร์ฟเวอร์ที่ได้รับความนิยมสำหรับองค์กรขนาดเล็กและองค์กรขนาดกลางนั่นเอง

ประเภทของ Cloud Server

Public Cloud

Public Cloud คือ Cloud Server ที่เปิดให้มีการใช้งานร่วมกับผู้อื่นผ่านอิตเทอร์เน็ต โดยผู้ใช้งานสามารถปรับขนาดพื้นที่ได้ตามความต้องการ ตามข้อกำหนดในสัญญาเช่า และยังมีจุดเด่นในด้านความสเถียร เนื่องจากเป็นเซิร์ฟเวอร์ที่ความจุและสามารถจัดเก็บได้มหาศาล จึงมีปัญหาด้านทรัพยากรจนเสี่ยงเว็บล่ม

Private Cloud

Private Cloud คือ การเปิด Cloud Server เป็นขององค์กรหรือบุคคลโดยเฉพาะ โดยพัฒนาเครื่องเซิร์ฟเวอร์และระบบต่าง ๆ เอง ทำให้มีความปลอดภัยเนื่องจากสามารถจำกัดการเข้าถึงได้อย่างอิสระ แต่ต้องใช้ทรัพยากรและต้นทุนเป็นจำนวนมาก Private Cloud จึงไม่เป็นที่นิยม

Hybrid Cloud

Hybrid Cloud คือ การผสมกันระหว่าง Public Cloud และ Private Cloud เพื่อแก้ข้อเสียของทั้งสองระบบ ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการจัดเก็บข้อมูล เช่น นำข้อมูลสำคัญเก็บไว้บน Private Cloud และ นำข้อมูลที่สำคัญหรือสำคัญน้อยกว่าเก็บไว้บน Public Cloud

นอกจากนี้ยังมีบริการ Cloud Server อีกหนึ่งรูปแบบที่เรียกว่า Cloud VPS หรือ Cloud Virtual Private Server ที่ให้เช่าเซิร์ฟเวอร์ผ่านระบบ Cloud ที่ทำให้ได้เซิร์ฟเวอร์หลาย ๆ ตัวเข้ามาช่วยจัดเก็บข้อมูล เหมือนมี Private Cloud โดยที่ไม่ต้องดูแลเซิร์ฟเวอร์เอง

Cloud Server มีหลักการทำงานอย่างไร

• SAN Storage : อุปกรณ์ที่ทำหน้าที่บันทึกข้อมูลของผู้ใช้งาน Cloud Server หรือข้อมูลเว็บไซต์ทุกเว็บ

• Server Machine : เครื่องเซิร์ฟเวอร์หลาย ๆ เครื่อง ที่เปิดระบบการใช้งานของระบบต่าง ๆ ของ Could Server

• Hypervisor : เป็นซอร์ฟแวร์จากเครื่องเซิร์ฟจริง ที่จะช่วยสร้าง Virtual Server หลาย ๆ ตัวให้เว็บไซต์ต่าง ๆ ใช้

• Resource Pool : อุปกรณ์ที่เป็นแหล่งประสิทธิภาพของเซิร์ฟเวอร์ เช่น CPU RAM และ HDD ของเครื่องเซิร์ฟเวอร์ทุกตัว

• Virtual Server : เซิร์ฟที่ลูกค้านำไปใช้งาน ซึ่งสามารถใช้ได้หลากหลายรูปแบบตาม Resouce ที่มีอยู่ ซึ่งแอปพลิเคชันกับ OS ของแต่ละเครื่อง/แต่ละผู้ใช้งาน ก็สามารถเลือกใช้ได้ตามความต้องการของแต่ละคน

ข้อดีของ Cloud Server

1. มีความยืดหยุ่นสูง

ข้อดีข้อแรกของ Cloud Server คือ มีความยืดหยุ่นสูง สามารถเพิ่ม-ลดพื้นที่ในการใช้งานได้ตามการใช้งานในแต่ละช่วงเวลา ซึ่งแตกต่างจากระบบเซิร์ฟเวอร์อื่น ๆ ที่ต้องรอให้ผู้ดูแลมาปรับ

2. ไม่ต้องกังวลเรื่องระบบ

ไม่ต้องกังวลเรื่องระบบ เนื่องจากหลายองค์กรที่มีการเก็บข้อมูลต่าง ๆ ไว้เอง อาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น การละเมิดข้อมูล (Data Breach) หรือ ภัยพิบัติทางธรรมชาติ แต่หากมีการใช้บริการ Cloud Server ที่สำรองข้อมูลขนาดใหญ่ จะช่วยให้องค์กรลดความเสี่ยงที่อาจเกิดจากปัญหาเหล่านี้

3. ข้อมูลมีความปลอดภัย

หากองค์กรจัดเก็บข้อมูลจำนวนมหาศาลใน Data Platform ของตัวเอง อาจทำให้ต้องจ้างเจ้าหน้าที่มารับผิดชอบด้านระบบ ทำให้เสียค่าใช้จ่ายและมีความเสี่ยงที่จะโดนโจมตีทางไซเบอร์ การใช้บริการ Cloud Server ที่มีระบบสำรองข้อมูล ช่วยป้องกันข้อมูลสูญหาย และยังมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ส่งเสริม Cyber Security จึงช่วยปกป้องข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4. มีความคุ้มค่า

Cloud Server ช่วยให้องค์กรประหยัดค่าใช้จ่าย ลดค่าจ้างฝ่ายไอที ค่าซ่อมแซมอุปกรณ์ ค่าไฟ และค่าอื่น ๆ อีกมากมาย และยังสามารถเลือกผู้ให้บริการที่มีราคาตรงตามงบประมาณ วางแผนค่าใช้จ่ายได้อย่างรอบคอบ และนำเงินไปใช้ในการพัฒนาองค์กรด้านอื่น ๆ ได้อีกด้วย

ใช้บริการ Cloud Server เจ้าไหนดี

1. Google Cloud Platform

Google Cloud Platform หรือ GCP คือ บริการ Cloud Server จาก Google ที่โดดเด่นด้านบริการที่สามารถทำงานร่วมกันกับแพลตฟอร์มอื่น ๆ ของ Google ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น Google Ads, Google Hangouts, Google Calendar, Google Drive, Google Analytics เป็นต้น เป็นเซิร์ฟเวอร์ที่มีความยืดหยุ่นสูง สามารถปรับขนาดได้ตามความต้องการขององค์กร โดยคิดค่าบริการตามจริงไม่ต้องเหมาจ่ายบริการที่ไม่ได้ใช้ และมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน ไม่ต้องกังวลเรื่องภัยคุกคามทางไซเบอร์ จึงทำให้ GCP ได้รับความนิยมไม่ต่างจากผู้ให้บริการ Cloud Server เจ้าอื่น ๆ อย่าง Amazon และ Alibaba

2. Microsoft Azure

Microsoft Azure คือ บริการ Cloud Server จาก Microsoft ที่โดดเด่นด้านลดความซับซ้อนของงาน IT จากเดิมที่ต้องใช้แพลตฟอร์มและเครื่องมือมากมาย ให้จบในแพลตฟอร์มเดียว โดยสามารถปรับขนาด Cloud Server ได้อย่างอิสระ ทำให้ประหยัดต้นทุนด้านไอทีและสามารถคำนวณงบประมาณได้อย่างแม่นยำ สามารถประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาลได้หลากหลายรูปแบบ โดยยังคงความปลอดภัยให้แก่ข้อมูล นอกจากนี้ Microsoft Azure สามารถเชื่อมโยงกับแพลตฟอร์มอื่น ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้งานได้อย่างดีเยี่ยม

3. Amazon Web Services (AWS)

Amazon Web Services คือ บริการ Cloud Server ที่เรียกได้ว่าเป็นอันดับ 1 เนื่องจากได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้งานมากที่สุดในโลก ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็ก ธุรกิจยักษ์ใหญ่ หรือหน่วยงานของรัฐ เนื่องจากมีฟังก์ชันที่ครบครัน และตอบโจทย์การใช้งานมากกว่า 200 solutions สามารถออกแบบระบบและปรับขนาดเซิร์ฟเวอร์ได้ตามความต้องการ โดยคิดเงินตามบริการที่เลือกใช้แบบไม่ต้องเหมาจ่ายทำให้ประหยัดต้นทุนมากขึ้น และยังมีความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล ทำให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้ว่าข้อมูลสำคัญจะไม่รั่วไหลออกไป

4. Alibaba Cloud

Alibaba Cloud คือ ผู้ให้บริการ Cloud Server พี่พัฒนาโดยบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ในประเทศจีน ซึ่งให้บริการมากถึง 597 products และอีก 300 solutions โดยใช้คอนเซป “Computational Storage” เข้ามาเพิ่มความสามารถการจัดเก็บและเข้าถึงข้อมูล เพื่อมอบการประมวลผลที่รวดเร็วแม้มีข้อมูลมหาศาล และยังมีการใช้ AI บนแพลตฟอร์มเพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างชาญฉลาดอีกด้วย

5. TRUE IDC

ขอบคุณรูปจาก : trueIDC

TRUE IDC คือ บริการ Cloud Server รายแรกของประเทศไทยที่มีพันธมิตรชั้นนำด้านการให้บริการ Cloud ระดับโลกมากที่สุด ได้แก่ Google, Amazon, Microsoft, Huawei, Tencent และ VMware โดยการบริหารจัดการระบบ Cloud Computing ของ TRUE IDC มีเป้าหมายเพื่อตอบโจทย์ความต้องการขององค์กรต่าง ๆ อย่างเหมาะสมและคุ้มค่า ซึ่งผู้ใช้งานสามารถกำหนดการใช้ CPU, RAM, Hard Disk และ ระบบปฏิบัติการ (OS) รวมไปถึงโปรแกรมต่าง ๆ ได้ตามความต้องการ โดยบริการ Cloud Server ของ TRUE IDC มีทั้งบริการ Cloud ในประเทศไทย และบริการ Cloud ในต่างประเทศ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างครอบคลุม

สรุป Cloud Server

นอกจาก Cloud Server ที่เราได้ทำการแนะนำ ยังมีผู้ให้บริการ Cloud Server เจ้าอื่น ๆ อีกมากมายทั้งในและนอกประเทศให้คุณได้เลือกใช้บริการ โดยมีราคา แพ็คเกจ และการให้บริการที่แตกต่างกันออกไป รวมถึง Cloud Server Free ที่มีให้ทดลองหรือใช้บริการได้เช่นกัน โดยควรศึกษารายละเอียดของ Cloud Server Free อย่างรอบคอบ เพื่อให้มั่นใจถึงข้อกำหนด ความปลอดภัย และการเก็บค่าบริการในอนาคต

อยากใช้ระบบ Cloud Server แต่ยังไม่รู้จะเตรียมข้อมูลอย่างไรดี? ที่ Data Wow เรามีบริการ Data Labeling ที่ช่วยให้คุณสามารถการจำแนกข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ จำแนกข้อความตามหมวดหมู่ต่าง ๆ สร้างเสียงจากข้อความและแปลงคำพูดให้เป็นข้อความ ระบุและติดแท็กชื่อวัตถุต่าง ๆ ในรูปภาพหรือวิดีโอ ทำให้ข้อมูลพร้อมใช้งาน และสามารถจัดเก็บได้อย่างเป็นระบบ อีกทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพในการวิเคราะห์และการเรียนรู้ของ Machine Learning ได้อีกด้วย ปรึกษาเราได้ที่ sales@datawow.io หรือโทร 02-024-5560