อัปเดตเทรนด์ AI ที่จะขับเคลื่อนทุกภาคธุรกิจในปี 2024

อัปเดตเทรนด์ AI ที่จะขับเคลื่อนทุกภาคธุรกิจในปี 2024

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า Everyday AI หรือ AI ในชีวิตประจำวันได้เข้ามามีส่วนช่วยทำให้ธุรกิจทำงานกันได้ดีและมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่มันจะมีความแตกต่างอะไรหากทุกธุรกิจต่างใช้ Everyday AI เหมือนกัน? – คุณต้น เจษฎากร สมิทธิอรรถกร CEO บริษัท Data Wow กล่าวไว้ว่า “หากคุณต้องการที่จะสร้างความแตกต่างให้กับธุรกิจ คุณจะต้องทำสิ่งที่เรียกว่า Game-Changing AI!”

Data Wow บริษัทผู้นำด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์ AI และ Data Science Consultant ของไทยได้จัดงาน “2024 Premiere: Shaping Our Future with AI” เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งในงานได้นำเสนอเทรนด์ AI ในปี 2567 พร้อมแชร์แนวทางให้ธุรกิจต่าง ๆ ได้นำเทคโนโลยี AI และ Generative AI มาใช้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถ และขับเคลื่อนธุรกิจได้อย่างยั่งยืน – นำโดย คุณต้น เจษฎากร สมิทธิอรรถกร CEO บริษัท Data Wow ที่อธิบายถึงความสำคัญของ AI ว่า “ในปัจจุบัน AI กลายเป็นเทรนด์สำคัญที่ทุกธุรกิจไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ให้ความสนใจ โดยคุณต้น ได้อธิบายผ่าน Use Cases จากต่างประเทศที่นำ AI มาประยุกต์ใช้กับสินค้าและบริการอย่างคาดไม่ถึง ซึ่งจุดประสงค์ก็เพื่ออยากให้องค์กรได้เห็นภาพและเข้าใจการนำ AI เข้ามาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน พัฒนาศักยภาพของพนักงาน และสร้างจุดเด่นให้กับสินค้าหรือบริการของตัวเองนั้นเอง”

enter image description here

เรียกได้ว่าการมาถึงของ ChatGPT ทำเอาคนทำธุรกิจทั้งในไทยและทั่วโลกตื่นตัวกับเทคโนโลยี AI อย่างมาก และประเทศไทยยังถูกจัดเป็นอันดับ 4 ของโลกที่ค้นหาคำว่า ChatGPT และ AI มากที่สุดบน Google Search อีกด้วย – ซึ่งสิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยให้ความสนใจกับเทคโนโลยี AI และ Generative AI มากเลยทีเดียว นอกจากนี้แนวคิดที่ว่า AI is Everywhere and in Everything คงจะไม่ใช่เรื่องเกินจริงอีกต่อไป ยกตัวอย่างเช่น DeRUCCI Group บริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยีการนอนหลับประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ด้านสุขภาพการนอนหลับ ในงาน CES 2024 ประกอบด้วย (1) ที่นอนอัจฉริยะที่ได้รับรางวัล สร้างการนอนหลับที่ดีต่อสุขภาพและลดความเสี่ยงด้านสุขภาพ (2) หมอนลดเสียงกรนที่ช่วยลดเสียงกรน และ อีกผลิตภัณฑ์ที่อ้างว่าแปลเสียงร้องของทารกได้ด้วย AI – QBear+ ถูกนำเสนอในงาน CES เมื่อปีที่แล้ว และยังได้รับรางวัลนวัตกรรมอีกด้วย จุดเด่นที่แตกต่างคือ คุณไม่จำเป็นต้องซื้ออุปกรณ์ใหม่ เพียงแค่ใช้งานแอพ "Cappella’s" บนโทรศัพท์ของคุณ

จาก Use Cases ดังกล่าวคงทำให้เห็นแล้วว่า AI มีการพัฒนาที่ก้าวกระโดด ไม่ว่าจะจาก ChatGPT-3 สู่ ChatGPT-4 ในเวลาเพียง 2 ปี ก็ได้เติบโตขึ้นมากถึง 10 เท่า และยังคงสร้างความตื่นเต้นอย่างต่อเนื่องโดย Sora ดาวดวงใหม่จาก OpenAI ที่ฉายแววความเก่งกาจ ที่สามารถสร้างวีดีโอจากการ Prompt ง่ายๆ เพียงเท่านี้มันก็จะ Generate วีดีโอออกมาให้แล้ว และยังค่อนข้างสมจริงอีกด้วย – จะเห็นได้ว่า AI ที่เราเห็น และใช้ทุกวันนี้ มันได้เกิดขึ้นเร็วกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ค่อนข้างมากหรือที่เรียกว่า “The Future is Now” เพราะมนุษย์เราในปัจจุบันนี้ได้ใช้ Everyday AI เข้ามาช่วยยกระดับการทำงานของ ChatGPT, Gemini, Copilot, Bing AI และ Midjourney ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น – เพราะฉะนั้นคำถามที่สำคัญมากกว่าการใช้ Everyday AI คือคุณในฐานะคนทำธุรกิจจะยอมใช้ Everyday AI ต่อไปหรือไม่? แล้วคุณจะเริ่ม Kick Start ในการทำ Game-Changing AI เพื่อสร้างความแตกต่างให้กับธุรกิจเหนือคู่แข่งได้อย่างไร?

enter image description here คุณเจษฎากร สมิทธิอรรถกร CEO บริษัท Data Wow

2024: ปีแห่ง Multimodal AI

Multimodal AI เทคโนโลยี AI ใหม่ล่าสุดที่จะเปลี่ยนวิธีการวิเคราะห์ข้อมูลของเราไปอย่างสิ้นเชิง – โมเดล Multimodal AI มีสามารถในการประมวลผลข้อมูลหลากหลายรูปแบบ เช่น ข้อความ รูปภาพ วิดีโอ และเสียง ได้ในเวลาเดียวกัน ตัวอย่างการใช้ Multimodal AI คือ รถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้กล้องและเซนเซอร์ตรวจจับสิ่งกีดขวางรอบตัว อย่างไรก็ตามหากจะทำ Multimodal AI ให้ได้มีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องมีข้อมูลที่มีคุณภาพ ดังนั้นธุรกิจต้องมีเป้าหมายและออกแบบระบบจัดเก็บข้อมูลอย่างดี หากข้อมูลไม่ดี ธุรกิจจะเสียโอกาสและอาจเกิดความเสี่ยงอื่นๆ ตามมาได้

หากใครที่กำลังอ่านมาถึงตรงนี้อาจจะเริ่มมีคำถามและความกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการลงทุน AI ที่อาจจะมีมูลค่าสูงมาก – ข้อมูลจาก ScienceDirect ระบุว่า องค์กรควรมี AI Intensity มากกว่า 25% หากเทียบให้เห็นภาพการลงทุนกับ AI อาจมีลักษณะแบบ J-Curve ที่มักมีความเสี่ยงขาดทุนในช่วงแรก และเสี่ยงขาดทุนระหว่างทางเพราะใช้เงินลงทุนสูงและได้ผลลัพธ์ที่ช้า ดังนั้น ธุรกิจควรเริ่มต้นจากโปรเจกต์ที่ง่าย เพื่อเก็บประสบการณ์ และเรียนรู้วิธีใช้ AI ที่เหมาะสมและเข้ากับบริบทขององค์กร

enter image description here คุณกษิดิศ สตางค์มงคล ผู้ก่อตั้ง Data Rockie, คุณกานดา สุภาวศิน Vice President, Digital Culture and Talent Experience จาก King Power, คุณนัทพล จงจรูญเกียรติ Head of Digital Transformation จาก PTTGC, คุณวีรพงษ์ สว่างศรี General Manager จาก JFE Steel Galvanizing (เรียงจากด้านซ้ายไปขวา)

Panel Discussion: AI Implementation in Real Life Unfiltered

ช่วงแชร์ประสบการณ์การทำ AI Implementation ผ่าน Panel Discussion: AI Implementation in Real Life Unfiltered ตอบคำถามโดยผู้นำองค์กรในแต่ละอุตสาหกรรม – ดำเนินโดยคุณทอย กษิดิศ สตางค์มงคล ผู้ก่อตั้ง Data Rockie ที่ได้ให้เกียรติมาเป็น Mederator

สรุป 4 ประเด็นสำคัญ

1.) Data เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการทำ Corporate Innovation

“เป็นที่รู้กันดีว่าข้อมูล หรือ Buzz Word อย่าง Data ถูกพูดถึงกันเยอะมากในปีที่ผ่านมา ซึ่ง Data เป็นสิ่งสำคัญมากๆ ในการสร้าง Innovation ในองค์กร – ซึ่งในปัจจุบันข้อมูลก็เปรียบเหมือนพื้นฐานของทุกอย่างที่องค์กรต้องการนำมาต่อยอดเพื่อทำ Corporate Innovation นอกจากนี้ยังต้องคอยค้นหาและศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อนำมาใช้ในการอ้างอิงเพื่อสื่อสารกับฝ่ายบริหารในองค์กรให้เข้าใจที่เห็นเป็นภาพชัดเจน และสามาถตัดสินใจเรื่องสำคัญจากข้อมูลได้ ผลส่งให้การสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ เกิดขึ้นในองค์กร” กล่าวโดย – คุณกานดา สุภาวศิน Vice President, Digital Culture and Talent Experience จาก King Power

2.) เลือก Champion ในองค์กรเพื่อทำ AI Pilot Project ก่อนนำ AI มาใช้ในองค์กรแบบ 100%

“ค้นหา Champion ในองค์กรให้เป็นเพรช ผลักดัน AI โปรเจกต์ให้เกิดขึ้น – เพราะก่อนที่เราจะนำเทคโนโลยี AI เข้ามาปรับใช้ในองค์กรแบบ 100% ทีมควรหาหน่วยงานแรกที่มีความพร้อมที่สุดในการปรับตัวและทำงานร่วมกันในทำ Pilot Project และสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยี AI กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องว่าแต่ละฝ่ายจะได้ประโยชน์อะไรจากการปรับใช้ AI เพื่อสามารถขับเคลื่อนให้เกิดการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น อาจจะศึกษาค้นหา Use Cases จากต่างประเทศเพื่อมาเป็นตัวอย่าง และปรับใช้ให้เข้ากับบริบทขององค์กร เช่น ในกรณีของ PTTGC “ผมเลือกหน่วยงานฝั่ง HR เนื่องจากว่ามี Use Cases ด้าน Generative AI ค่อนข้างเยอะให้ศึกษา” กล่าวโดย – คุณนัทพล จงจรูญเกียรติ Head of Digital Transformation จาก PTTGC

3.) อะไรที่ “คน” ทำได้ “AI ก็ทำได้”

“อะไรที่คนทำได้ AI ก็ทำได้” – AI อาจเปรียบเหมือนอีกหนึ่งอวัยวะที่ได้แทรกซึมเข้ามาอยู่ในชีวิตของมนุษย์ เพียงแค่หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาก็เจอ AI แล้ว หากเทียบ AI ในธุรกิจภาคการตลาด กับภาคอุตสาหกรรมการผลิต จะเห็นได้ว่าภาคการตลาดโดยผลกระทบอย่างมาก เช่น การเปิดตัวมาของ Sora ที่อาจทำให้ Website พวก Stock คอนเทนต์อาจะโดนแทนที่ด้วย AI ได้ อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่า AI กับอุตสาหกรรมการผลิดอาจยังเข้าไม่ถึงมากหนัก แต่ AI มันมาแน่ๆ อะไรที่มนุษย์เราสามารถบอกกระบวนการ วิธีการทำงานต่างๆ ที่คนทำได้ AI ก็ทำได้เช่นกัน และจะทำได้ดีกว่ามนุษย์ด้วย ดังนั้นเราจึงต้องคอยศึกษาข้อดีและข้อเสียไว้เสมอ กล่าวโดย – คุณวีรพงษ์ สว่างศรี General Manager จาก JFE Steel Galvanizing

4.) Empathy สิ่งสำคัญในการพัฒนาธุรกิจที่ AI ไม่มีเหมือนมนุษย์

Empathy = ความเป็นมนุษย์ – ต่อให้ AI จะมีความเก่งกาจมากแค่ไหนก็ตามสิ่งที่ AI ไม่มีเหมือนมนุษย์นั้นก็คือ Empthy หรือ ความเห็นอกเห็นใจต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน อย่างไรก็ตาม AI ยังไม่สามารถทำงานบางอย่างที่ต้องใช้อารมณ์และความรู้สึกได้ดีเท่ามนุษย์ก็จริง แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าในอนาคต AI จะไม่มีวันเข้าใจและจัดการอารมณ์ความรู้สึกของคนได้ นอกจากนี้ก็ยังคงต้องระวังเรื่องจรรยาบรรณในการใช้ AI ไม่ว่าจะเป็นการใช้ AI ในการสร้าง Deepfake เพื่อใช้ในการแสวงหาประโยชน์ส่วนตัวและยังเป็นเรื่องที่น่ากังวล เช่น การเปิดตัวมาของ Sora ที่ต้องดูว่าจะมีปรับมาตรการออกมาอย่างไรหรือการใช้ AI เพื่อเลือกปฏิบัติต่อบุคคล และแม้ AI จะฉลาดแค่ไหนก็ยังสู้มนุษย์ไม่ได้ ความเป็นมนุษย์ที่มี Empathy ยังคงเป็นสิ่งสำคัญในการทำงาน ธุรกิจควรพัฒนาทักษะด้านนี้ควบคู่ไปกับการใช้ AI กล่าวโดย – คุณวีรพงษ์ สว่างศรี General Manager จาก JFE Steel Galvanizing

นึกถึง AI นึกถึงเรา Data Wow ช่วยให้องค์กรทั้งในไทยและญี่ปุ่น Transform ด้วย Data และ AI มามากมาย การันตีความเชี่ยวชาญ ติดต่อเรา sales@datawow.io หรือโทร. 02-024-5560